ออกกําลังกาย ตอนท้องว่าง มีคนเคยสงสัยกันไหมว่า หากเราออกกําลังกาย ตอนท้องว่าง จะส่งผลเสียต่อสุขภาพของเราไหม ในความจริงแล้วหากเราออกกำลังเป็นประจำทุกวันย่อมเป็นผลดีมากกว่าผลเสียอยู่แล้ว และยิ่งถ้าออกกำลังกายในช่วงท้องว่างหลังจากที่เราตื่นนอนก็จะทำให้ร่างกายดึงไขมันส่วนเกินในร่างกายออกมาใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แต่ถึงอย่างไรกันออกกำลังกาย ตอนท้องว่างก็ยังมีข้อเสียเหมือนกัน ในวันนี้เราจึงรวบรวมข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับการออกกำลังกาย ตอนท้องว่างมาให้คนรักสุขภาพได้ลองอ่านกัน
รวมข้อดีของการ ออกกําลังกาย ตอนท้องว่าง ที่คนรักสุขภาพควรรู้
1.ช่วยเร่งระบบเผาผลาญในร่างกาย

หากเราการออกกําลังกาย ตอนท้องว่างเป็นประจำทุกวัน จะช่วยเร่งอัตราการเผาผลาญในร่างกายให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น โดยคนส่วนมากมักเลือกออกกำลังกายในช่วงหลังตื่นนอน เพราะจะช่วยให้ร่างกายตื่นตัว และรู้สึกกระปรี้กระเปร่ามากขึ้น แถมข้อดีของการออกกำลังกายตอนท้องว่าง ยังเป็นการกระตุ้นให้ร่างกายดึงไขมัน และคาร์โบไฮเดรตออกมาใช้งาน ทำให้ไขมันที่สะสมอยู่ในร่างกายค่อย ๆ สลายกลายเป็นกล้ามเนื้อ ส่งผลให้เราลดน้ำหนักได้ไวกว่าตอนออกกำลังกายหลังจากที่ทานอาหารนั่นเอง
2.ช่วยลดความต้องการพลังงานในแต่ละวันลงได้
แน่นอนว่าถ้าเราออกกำลังกายในช่วงที่ท้องว่าง จะส่งผลให้ความต้องการพลังงานในร่างกายลดลงด้วย จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่น้ำหนักจะลดลงเร็วกว่าการทานอาหารก่อนไปออกกำลังกาย
3.ช่วยเสริมสร้างระบบย่อยอาหารให้ทำงานดีขึ้น
โดยปกติแล้ว คนที่ทานอาหารก่อนออกกำลังกาย มักมีอาการคลื่นไส้ ปวดเกร็งบริเวณช่องท่อง ท้องร่วง หรืออาเจียนขึ้นได้ ซึ่งอาการเหล่านี้มักมีผลมาจากอาหารที่ทานเข้าไป ยิ่งคนไหนที่ชอบทานอาหารก่อนออกกำลังเป็นเวลา 30 นาที ย่อมส่งผลให้กระเพาะอาหารดูดซึมอาหารได้ไม่ดีเท่าที่ควร หนำซ้ำยังทำให้เรารู้สึกจุกเสียดท้องได้ขณะที่ออกกำลังกาย แต่ในทางกลับกันหากเราเลือกออกกำลังกายในช่วงท้องว่าง ก็จะช่วยให้ระบบเผาผลาญในร่างกายทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ และไม่ก่อให้เกิดอาการดังกล่าวขึ้นได้

รวมข้อเสียของการออกกำลังกาย ตอนท้องว่าง
1.อ่อนล้าได้ง่าย
ถึงแม้ว่าการออกกำลังกายตอนท้องว่าง จะช่วยให้ร่างกายสามารถดึงไขมันออกมาใช้พลังงานได้ดี แต่เมื่อคุณออกกำลังกายด้วยความหักโหม ย่อมไม่ใช่เรื่องดีต่อร่างกายแน่ ๆ เพราะมันจะทำให้คุณอ่อนล้าและหมดแรงได้ง่าย เนื่องจากไขมันที่สะสมอยู่ในร่างกายถูกเผาผลาญจนหมด และระดับน้ำตาลในเลือดลดต่ำลง ส่งผลให้มีอาการหน้ามืด เวียนหัวตามมาในภายหลังได้
2.เพิ่มความเสี่ยง และอุบัติเหตุระหว่างที่ออกกำลังกาย
อย่างที่เราได้พูดข้างต้นว่า การออกกำลังกาย ในช่วงท้องว่าง อาจทำให้เรามีอาการหน้ามืด และเวียนศรีษะได้ เนื่องจากร่างกายได้รับพลังงานไม่เพียงพอ ทั้งยังส่งผลให้สมองขาดน้ำตาลกลูโคสด้วย ทำให้สมาธิในการจดจ่อลดน้อยลง ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดตามมาได้
3.การวิ่งตอนท้องว่าง ทำให้ร่างกายสูญเสียกล้ามเนื้อ
ในร่างกายของเรามีสารชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า คอร์ติซอล ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่หลั่งมาจากต่อมหมวกไต มีหน้าที่สำคัญในการควบคุมระบบการทำงานต่าง ๆ ในร่างกาย เช่น การตอบสนองต่อความเครียด หรือการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด นอกจากนี้การที่ร่างกายผลิตคอร์ติซอลออกมากเกินไป จะส่งผลให้โปรตีนในร่างกายถูกการกระตุ้น และใช้งานมากกว่าปกติ ทำให้ร่างกายของเราสูญเสียกล้ามเนื้อได้ง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งผลจากการวิจัยพบว่าผู้ที่ออกกำลังกายในช่วงเช้าหลังจากตื่นนอน จะทำให้ระดับคอร์ติซอลเพิ่มสูงขึ้น เป็นเหตุให้ร่างกายกล้ามเนื้อในร่างกายอ่อนแอลง
4.การวิ่งตอนท้องว่าง ไม่เหมาะกับคนที่เป็นโรคเบาหวาน
หากเป็นคนปกติที่ไม่มีโรคแทรกซ้อนในร่างกาย อาจไม่เป็นปัญหาเท่ากับผู้ที่มีโรคประจำตัวอย่างเช่น โรคเบาหวานทั้งชนิดที่ 1 และชนิดที่ 2 เพราะอาจทำให้น้ำตาลในเลือดลดต่ำลงได้ ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดอาการหน้ามืด เวียนศรีษะ หรืออาการแทรกซ้อนอื่น ๆ ตามมาได้ ฉะนั้นแล้ว คนที่เป็นเบาหวานจึงไม่ควรออกกำลังกายในช่วงท้องว่าง ทางที่ดีที่สุดคือการทานอาหารรองท้องไปสักหน่อย อาทิเช่น โปรตีน และผัก เป็นต้น
5.การออกกำลังกายตอนท้องว่าง เป็นการออกกำลังกายที่ไม่ยั่งยืน
จริงอยู่ที่การออกกำลังกายช่วงท้องว่างจะช่วยลดน้ำหนักได้ดี แต่เมื่อเวลาผ่านไปการออกกำลังกายประเภทนี้จะส่งผลเสียมากกว่าผลดี ทั้งยังทำให้เราสูญเสียมวลกล้ามเนื้อในร่างกายได้ง่าย ต่อให้เราจะเล่นเวทเทรนนิ่งทุกวันก็ตาม และเมื่อร่างกายเริ่มชินกับการออกกำลังกายในขณะที่ท้องว่าง ก็จะทำให้อัตราการเผาผลาญน้อยลง ส่งผลให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
สรุปแล้วควรทานอาหารก่อนออกกำลังกาย หรือหลังออกกำลังกายดี
ตามหลักแล้ว การทานอาหารก่อนออกกำลังกาย มักเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าอยู่แล้ว เพราะมันจะช่วยให้คุณมีพลังงานเพียงพอในการออกกำลังกายมากขึ้น และยังเพิ่มอัตราการเผาผลาญให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพขึ้นด้วย แต่ในทางกลับกันหากคุณเลือกออกกำลังกายตอนท้องว่าง ย่อมทำให้คุณหมดแรงได้ง่าย และมีอาการเวียนศรีษะหรือหน้ามืดได้ทุกครั้ง ยิ่งถ้าเป็นคนที่ต้องออกกำลังกายเป็นเวลานานกว่า 1 ชั่วโมงด้วยแล้ว ก็ควรทานอาหารองท้องก่อนออกกำลังกายจะดีต่อร่างกายที่สุด ทานของว่างรองท้อง ก่อนออกกำลังกาย

หากใครไม่อยากทานอาหารมื้อหนักจนเกินไป อาจลองเลือกทานของว่างอย่างน้อย 1 ชั่วโมงก่อน ออกกำลังกายกันดู โดยให้เน้นโปรตีน และคาร์โบไฮเดรตที่ดี ต่อสุขภาพ เช่น ขนมปังโฮลวีต ซีเรียลจากธัญพืช โยเกิร์ต แอปเปิ้ลเขียว ไข่ต้ม และกล้วยหอม
ทานอาหารหลังจากที่ออกกำลังกายเสร็จ
เมื่อออกกำลังกายเสร็จแล้ว ร่างกายจะต้องการพลังงานที่มีประโยชน์จำพวกโปรตีน และคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ซึ่งข้อดี ของการทานอาหารเหล่านี้หลังจากออกกำลังกายเสร็จ สารอาหารจะเข้าไป ฟื้นฟูกล้ามเนื้อ ให้มีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น และช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยควรทานอาหารภายหลังจากออกกำลังกายเป็นเวลา 2 ชั่วโมง ได้แก่ ข้าวโอ๊ตกับเนยถั่ว โยเกิร์ตรสธรรมชาติ อะโวคาโด แซนวิชอกไก่ เป็นต้น นอกจากนี้การดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอทั้งก่อนออกกำลังกาย และหลังออกกำลังกายก็จะช่วยชดเชยน้ำในร่างกายได้เช่นกัน