สำไล้มีปัญหาบ่อยมาก ๆ ดูแลยังไงดี ที่นี่มีคำตอบ

คนที่ถ่ายท้องแล้วมีเลือดออกมาปนอยู่ด้วย หรือรู้สึกหน่วง ๆ ท้องต้องรู้ไว้ เพราะ ลำไส้มีปัญหา

ลำไส้มีปัญหา ถ่ายท้องแล้วมีเลือดออกมา เพื่อป้องกันโรคก่อนที่จะสายเกินไป ในวันนี้จึงอยากจะมาแชร์เรื่องราวเกี่ยวกับการดูแลลำไส้ของเรา เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับลำไส้ อาหารการกินจึงสำคัญมาก ดังนั้นใครที่กำลังประสบปัญหาเหล่านี้อยู่ บทความนี้ช่วยเพื่อน ๆ ได้อย่างแน่นอน

สัญญาณเตือนโรคลำไส้มีปัญหา รู้ไว้ ป้องกันได้

1.ท้องอืด ท้องเฟ้อ รู้สึกไม่สบายท้อง

หากมีอาการท้องอืด ท้องเฟ้อบ่อยครั้ง ลำไส้มีปัญหา อย่างแน่นอน หรือกระเพาะอาหารของเราย่อยได้ไม่เต็มที่ อาจจะเกิดจากการที่รับรับประทานอาหารในปริมาณมากอีกด้วย

 2.ท้องผูก ถ่ายท้องอยู่เป็นประจำ

อาจเสี่ยงเป็นโรคริดสีดวงทวาร หากถ่ายมีมูกเลือดออกมาด้วยยิ่งต้องระวัง เพราะอาหารไม่ย่อย หรือแบคทีเรียในลำไส้มีจำนวนพวกที่ไม่ดีอยู่เยอะ

3.ร่างกายไม่แข็งแรง อ่อนเพลียง่าย

เพราะเจ้าแบคทีเรียในลำไส้มีส่วนช่วยในเรื่องฮอร์โมนและสารอาหาร ดังนั้นความอ่อนเพลียจึงไม่ใช่แค่เหนื่อยล้าจากการใช้แรง แต่หมายถึงระบบภายในด้วย

4.เซื่องซึม เบื่อหน่ายกับกิจวัตรประจำวัน

ลำไส้มีการทำงานหนัก เบื่ออาหารง่าย อะไรที่เคยชอบทำก็มีแต่เบื่อหน่าย มีโอกาสเป็นโรคซึมเศร้า

5.ปวดท้องเฉียบพลัน มีอาการจุกบ่อย ๆ

มีอาการถ่ายไม่ออกร่วมด้วย อาจจะเกิดจากการที่ในท้องของเรามีแก๊สมากเกินไปจากกระบวนการย่อยอาหารของแบคทีเรียในลำไส้ หรือลำไส้มีการทำงานที่ผิดปกติ ควรมาพบแพทย์เพื่อการตรวจทางเดินอาหารหาโรค และวิธีป้องกันเบื้องต้น

ลำไส้มีปัญหาบ่อย แก้ไขได้ด้วยเรื่องแบบนี้

เพราะลำไส้ของเรามีแบคทีเรียมากมายอาศัยอยู่ ซึ่งมีส่วนสำคัญที่ส่งเสริมต่อสุขภาพของเรา เนื่องจากสร้างอาหารและฮอร์โมนที่เกิดขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแบคทีเรียดี เป็นแบคทีเรียที่อาศัยในฐานะพึ่งพากันและกัน ไม่ต้องกลัวว่าจะเกิดอันตราย แบคทีเรียดีเหล่านี้ ช่วยให้เราสุขภาพดี การกินอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาล จะช่วยให้แบคทีเรียทำงานดีขึ้น แต่ก็ไม่ควรทานเยอะเกินไป เนื่องจากอาจจะส่งผลกระทบทำให้เรื่องอื่น ๆ ตามมาได้เช่นกัน แต่ก็ใช่ว่าในร่างกายจะไม่มีแบคทีเรียชนิดไม่ดี ดังนั้น อาหารการกินจึงสำคัญมาก ซึ่งการดูแลให้ลำไส้ให้มีสัดส่วนของแบคทีเรียชนิดดีเหนือแบคทีเรียชนิดไม่ดีจะส่งผลให้สุขภาพแข็งแรงป้องกันไม่ให้ลำไส้มีปัญหา ร่างกายภายในทำงานอย่างเป็นระบบ ภูมิคุ้มกันทำงานได้ดี ป้องกันมะเร็งลำไส้ แถมยังส่งผลต่อภายนอก ทำให้ร่างกายแข็งแรงไม่แก่เกินวัย วิธีดูแลลำไส้ให้แข็งแรงจึงมีดังนี้

1.ไม่รับประทานอาหารที่มีไขมันมากเกินไป

ไขมันจากเนื้อสัตว์แม้ว่าจะมีประโยชน์ต่อร่างกายและความงาม แต่การทานมากเกินไปจะทำให้เกิดการสะสมของแบคทีเรียชนิดไม่ดีเยอะขึ้น อุจจาระยากขึ้น ซึ่งส่งผลให้อุจจาระเรามีกลิ่นที่มากขึ้นอีกด้วย ดังนั้นควรทาน อาหารที่ช่วยเพิ่มปริมาณแบคทีเรียชนิดดี ซึ่งมีดังนี้

• 1.อาหารหมักดองที่มีแลคติกแอซิดแบคทีเรีย ตัวอย่างเช่น ผักดองรำ ซุปมิโซะ นัตโตะ ผลิตภัณฑ์นมหมัก นมเปรี้ยวและโยเกิร์ต

• 2.อาหารที่อุดมไปด้วยน้ำตาลโอลิโกแซคคาไรด์ เช่น กล้วย หอมใหญ่ กระเทียม และมะเขือเทศ

• 3.อาหารที่อุดมไปด้วยเส้นใยอาหารไฟเบอร์  เช่น ผักและผลไม้ทั่วไป เห็ด ซึ่งจะช่วยในเรื่องระบบขับถ่ายดี ลำไส้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

• 4.อาหารเสริมดูแลลำไส้ เนื่องจากมีสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายมากมาย แถมรับประทานง่าย เพราะบางคนอาจจะไม่ชอบรสชาติของผัก

2.หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก

การดื่มเครื่องดื่มประเภทนี้ก็มีข้อดี เนื่องจากจะกระตุ้นการทำงานของลำไส้ และมีส่วนช่วยในระบบหมุนเวียนเลือด และเพราะหาซื้อง่าย มีจำหน่ายอยู่ทั่วไป จึงทำให้เกิดการซื้อมาดื่มมากขึ้น การดื่มในปริมาณมากจึงส่งผลเสียต่อระบบหมุนเวียนเลือด อย่างเช่นการขับถ่าย โรคที่เกิดขึ้นจึงเกิดทั้งในลำไส้ หัวใจ ตับ และไต ดังนั้นควรดื่มในปริมาณที่พอดี

3.ออกกำลังกายพอประมาณเป็นประจำ

เพราะการออกกำลังกายจะช่วยให้ร่างกายมีการนำพลังงานออกมาใช้ ไขมันไม่ได้รับการสะสม ไม่อ้วนง่าย ได้สุขภาพดี

4.ดื่มน้ำให้เพียงพอ

เพราะน้ำช่วยในเรื่องระบบขับถ่ายได้ดีมาก ดังนั้นควรดื่มน้ำให้มาก ๆ ล้วนแต่ให้ผลดีต่อร่างกาย ควรดื่มวันละ 1 – 2 ลิตร จะพอดีกับร่างกายเราที่สุด

            เพราะลำไส้ก็เป็นอีกหนึ่งอวัยวะภายในร่างกายที่เราต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ เนื่องจากสุขภาพที่ดี ก็มาจากสารอาหารที่เราได้รับจากการดูดซึมของลำไส้ หากเราดูแลไม่ดี กินแต่อาหารที่มีไขมัน หรือเป็นผลเสียต่อร่างกายมาก ๆ เข้า โรคร้ายก็ตามมาแบบไม่ทันตั้งตัวได้ ดังนั้นควรเลือกกินแต่ของดี ๆ ออกกำลังกายอยู่เสมอ ซึ่งจะช่วยให้เรามีสุขภาพดีนั่นเอง